บรูซ ลี และรถเหล็ก หน้ากากแตน
BRUCE LEE AND THE GREEN HORNET DIECAST CAR

The Green Hornet ได้ถูกนำมาสร้างใหม่ แต่คราวนี้เป็นผลงานการกำกับของ มิเชล กอนดรี้ นำแสดงโดย เซ็ธ โรแกน, เจย์ โชว์, คาเมรอน ดิอาซ, คริสตอฟ วอลตช์, เอ็ดเวิร์ด เจมส์ โอลมอส, เดวิด ฮาร์เบอร์, ทอม วิลกินสัน ซึ่งกำลังฉายอยู่ในขณะนี้ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศขอนำเรื่องราวของ The Green Hornet ในเวอร์ชั่นรถเหล็กมาฉายซ้ำเช่นกันครับ
หลายคนคงจะงงๆ ว่า บรู๊ซ ลี เจ้าตำรับมวยจีน หรือ กังฟู มาเกี่ยวข้องกับ รถหน้ากากแตน หรือ The Green Hornet Car ได้อย่างไร โดยเฉพาะท่านที่ไม่เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ลองอ่านต่อไปก็แล้วกันครับ

The Green Hornet นั้น แรกเริ่มเดิมทีนั้นเป็นหนังสือการ์ตูนที่สร้างสรรค์โดย George และ Fran Striker ในปี 1939 เป็นเรื่องราวของมหาเศรษฐีหนุ่มชื่อ Britt Reid ผู้สวมชุดดำพร้อมผู้ช่วยซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับรถด้วยออกกวาดล้างอาชญากรในยามค่ำคืน
จากหนังสือการ์ตูนก็กลายมาเป็นละครวิทยุออกอากาศทางสถานี WXYZ (ซึ่งต่อมาก็คือ ABC) ในเมืองดีทรอยยาวนานกว่า 16 ปี
เพลงไตเติ้ลที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ใน The Green Hornet คือ Flight of the Bumblebee แต่งโดย Rimsky Korsakov ผสมกับเสียงบินของผึ้ง
ในยุคภาพยนตร์ขาว-ดำ The Green Hornet ก็ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์โดย Universal นำแสดงโดย Gordon Jones และ Wade Boteler
ในปี 1966 The Green Hornet ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ชุดฉายทางโทรทัศน์ช่อง ABC โดยผู้สร้างชุดเดียวกับภาพยนตร์เรื่อง Batman ผู้แสดงเป็นหน้ากากแตนหรือ Britt Reid คือ Van Williams ส่วนที่แสดงเป็นคู่หูและเป็นผู้ขับรถอัจริยะที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ ชื่อ Kato ก็คือ Bruce Lee ราชากังฟู ผู้นี้นี่เอง (ในยุคนั้น กังฟู ถือเป็นของใหม่สำหรับสังคมอเมริกัน)

ในปี 1990 หน้ากากแตนถูกนำมาสร้างสำหรับฉายในโรงภาพยนตร์ นำแสดงโดย George Clooney และ Jason Scott Lee (ไม่แน่ใจว่าเป็นลูกบรูซลีหรือไม่ ใครทราบช่วยบอกทีครับ) และล่าสุด (ปี 2007) ก็มีข่าวว่า หน้ากากแตน จะถูกนำมาปัดฝุ่นสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่ง โดยโคลัมเบีย พิคเจอร์ ในครั้งนี้ผู้รับบทเป็นหน้ากากแตนคือ นักแสดงดาวรุ่ง Seth Rogen และกำลังทาบทาม โจวซิงฉือ (Stephen Chow) มารับบทเป็น Kato คู่หูร่วมปราบอธรรม

ทีนี้มาว่ากันถึงเรื่องราวของรถอัจฉริยะในภาพยนตร์เรื่องนี้กันบ้างนะครับ ที่โด่งดังและมีผู้นิยมชมชอบมากที่สุดก็คือรถในภาพยนตร์ปี 1966 นั่นเอง รถคันนี้มืชื่อเรียกเล่นๆ ว่า Black Beauty ผู้สร้างและผู้ออกแบบรถอัจฉริยะคันนี้ก็คือ Dean Jeferies โดยดัดแปลงมาจากรถรุ่น 1966 Chrysler Crown Imperial 4 ประตู

เขาใช้เงินประมาณ 50,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับการดัดแปลงรถแต่ละคัน Black Beauty ถูกสร้างขึ้นทั้งหมด 3 คัน 2 คันสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ และอีก 1 คันสำหรับการเดินสายโชว์ตามที่ต่างๆ เจฟต้องสร้างรถคันนี้ให้ทำงานได้เหมือนจริงเพราะว่า ในช่วงปี 1966 นั้น ยังไม่สามารถทำคอมพิวเตอร์กราฟิคในภายพยนตร์ได้ เจ้ารถอัจฉริยะคันนี้ทำอะไรได้บ้างเพื่อต่อกรกับ อาชญากรตัวร้าย
1. เครื่องยนต์ของรถคันนี้มีกำลังสูงถึง 500 แรงม้า
2. ด้านหน้าและด้านหลังมีที่ยิงขีปนาวุธ
3. โคมไฟหน้าเปลี่ยนสีได้
4. มีโทรทัศน์วงจรปิดภายในรถ
5. มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งข้างหน้าและข้างหลังรถ
6. ท่อไอเสียพิเศษสามารถปล่อยน้ำแข็งลงบนถนนได้
7. มีแปรงพิเศษด้านท้ายรถสามารถปล่อยลงมาเพื่อกวาดรอยล้อรถเพื่อป้องกันการติดตามของผู้ร้าย
8. ตัวรถและกระจกป้องกันกระสุน
9. ล้อและยางรถด้านหลังมีเกราะพิเศษป้องกันกระสุน
10. ประตูรถ ปิด-เปิดจากระยะไกลได้
11. ด้านหลังรถมีท่อพิเศษสำหรับปล่อยม่านควันเพื่อการหลบหนี
12. ด้านหน้ามีที่ปล่อยแก๊สพิษ
13. มีกล้องโทรทัศน์พร้อมเลนซ์พิเศษสามารถมองเห็นภาพได้ไกลถึง 4 ไมล์
14. มี Flying Radar Scanner สำหรับหาตำแหน่งของผู้ร้าย
15. ตัวรถเคลือบด้วยสีดำพิเศษ ผสมผงไข่มุกดำเคลือบหนา 30 ชั้น เงางามเป็นพิเศษ
16. มีระบบ Infra Green Light ทำให้มองเห็นในที่มืดได้
ครับนั่นเป็นความพิเศษของรถ Black Beauty ในภาพยนตร์ The Green Hornet ทีนี้เราจะมาดูกันนะครับว่า รถเหล็ก The Green Hornet หรือ Black Beauty ที่ผลิตโดย Corgi จะมีอะไรเป็นพิเศษบ้าง

รถเหล็ก The Green Hornet ที่นำมาให้ชมกันในวันนี้ เป็นการผลิตครั้งที่ 2 ของ Corgi ในปี 2001 (ครั้งแรก No 268A ผลิตในปี 1967) มีขนาดเท่าเดิมคือ 12.5 ซม.ตัวรถสีดำมันวาว และหลังคารถสีดำลายหนัง มีสกรีนลายแตนบนหลังคา กระจกสีเขียว ใต้ท้องสีดำ มีกลไกสำหรับยิงจรวดขีปนาวุธด้านหน้า เมื่อกดปุ่มด้านข้าง กระจังหม้อน้ำด้านหน้าจะเปิดออกและกระสุนสีส้มจะถูกยิงออกมา และในจังหวะที่กระจังหน้าเปิดออกมานั้น ฝาเปิดของเครื่องปล่อยแก๊สพิษจะเปิดออกมาในเวลาเดียวกัน

ส่วนด้านหลังนั้นก็มีเครื่องปล่อย Hornet Scanner ส่งหาตำแหน่งของผู้ร้าย เมื่อกดกลไกด้านข้างส่วนหลัง ฝากระโปรงหลังจะเปิดออก แล้วจะมี Hornet Scanner จะหมุนพุ่งลอยขึ้นไปในอากาศ

ตัวรถมีน้ำหนักมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีชิ้นส่วนเป็นโลหะเป็นส่วนใหญ่ ชุดทำครั้งที่สองนี้จะแถมหุ่น Kato หล่อด้วยโลหะและลงสีด้วยมือแถมมาให้ด้วยครับ

ครับรถเหล็ก Green Hornet คันนี้นับเป็นอีกคันหนึ่งที่มีคุณค่าน่าสะสมมาก รถรุ่นแรกสภาพมีกล่องใหม่เอี่ยม มีราคาสูงมาก ในปัจจุบันในหนังสือ Diecast Collector ฉบับที่ 1 ปี 1997 ถึงกับบอกไว้ว่าเป็น 1 ใน 7 รถสุดยอดรถที่น่าสะสมของ Corgi ทีเดียวครับ
นอกจากรถเหล็ก The Green Hornet ของ Corgi ทั้งสองรุ่นแล้ว ก็ยังมีผู้ผลิตรายอื่นๆ อีกครับ เช่น Johnny Lightning ได้ผลิตออกมา 2 รุ่น ในราวๆ ปี 2003 และ ERTL ผลิตในปี 2004 มีขนาด 1:24

ครับเราฉลองตรุษจีนด้วยรถคันนี้ก็แล้วกัน เอ๊ะ! แล้วรถคันนี้เกี่ยวอะไรกับตรุษจีน เกี่ยวซิครับ เพราะว่า คนขับรถคันนี้บรูซลีเป็นคนจีนยังไงละครับ (ฮา) เอาสีข้างเข้าถูดื้อๆ อย่างนี้แหละครับ ตรุษจีนปีนี้ก็ขอ ซินเจียอยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ก็แล้วกันครับ พบกันใหม่คราวหน้า สวัสดีครับ
ยุคนธร รัตรสาร
|